การกลับมาอีกครั้งของ NIKE MAG 2016, THE REAL POWER-LACING SHOE!!!
Nike Mag รองเท้าที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของเหล่า Sneakerhead มากว่า 20 ปี นอกจากจะเป็นรองเท้าจากภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง "Back to the future II" รองเท้าคู่นี้ยังมีความพิเศษตรงที่มันสามารถผูกเชือกเองได้ มาพร้อมกับรูปทรงที่ล้ำยุคดูทันสมัยทำให้รองเท้าคู่นี้เข้าไปอยู่ในใจของพวกเราได้อย่างไม่ยากเย็น หากย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วการได้เห็นรองเท้าคู่นึงที่สามารถผูกเชือกด้วยตัวเองได้นั้นคงเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนที่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
รองเท้าคู่นี้เคยทำออกมาให้เหล่า Sneakerhead ได้เป็นเจ้าของเมื่อปี 2011 โดยการประมูลผ่าน Ebay ณ ขณะนั้นแฟน ๆ ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ ราคาที่ประมูลกันก็พุ่งขึ้นไปถึงหลักแสนบาทครับ!!! โดยที่ในตอนนั้นยังไม่มีระบบกลไกให้รองเท้าสามารถผูกเชือกเองได้ด้วยซ้ำ แต่ก็เพียงพอให้เกิดกระแสที่แตกตื่นกันไปทั่วโลกด้วยยอดประมูลรองเท้า 1,510 คู่ อยู่ที่ 4.7 ล้านเหรียญ ซึ่ง Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Google และ Anne Wojcicki ภรรยาได้ร่วมบริจาคเงินอีกเท่าตัวนั่นทำให้ยอดรวมของเงินบริจาคพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 9.4 ล้านเหรียญ และได้มอบให้แก่มูลนิธิ "The Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research" สำหรับราคาขายในท้องตลาดปัจจุบันนี้อยู่ที่ +/- 10,000 เหรียญหรือประมาณ 3 แสนกว่าบาทครับ ซึ่งรองเท้าที่ทำออกมาในปี 2011 นั้นเป็นรองเท้าที่มีลักษณะเหมือนกันเฉย ๆ ยังไม่สามารถผูกเชือกเองได้ด้วยซ้ำ!!! เพราะฉะนั้นถ้ามีรองเท้ารุ่นนี้ที่สามารถผูกเชือกเองได้...ไม่ต้องคิดเลยครับว่าราคาจะพุ่งขึ้นไปสูงขนาดไหน
ในวันที่ 4 ตุลาคม 2559 นี้ ทาง Nike ได้ประกาศออกมาแล้วครับว่ารองเท้ารุ่นนี้จะวางจำหน่ายอีกครั้งแต่สิ่งที่แตกต่างจากที่เคยวางขายในปี 2011 ก็คือ....มันสามารถผูกเชือกเองได้แล้ว!!! นั่นทำให้รองเท้าคู่นี้เหมือนกับที่เคยเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1989 ทุกประการ โดยกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ผ่านทางแอพลิเคชั่น Nike+ ซึ่งจะไม่ใช้การประมูลเหมือนเมื่อ 5 ปีที่แล้วแต่จะใช้การจับฉลากผู้โชคดีที่เข้าไปบริจาคเงินผ่านแอพลิเคชั่นนี้ และก็เช่นเคยครับรายได้ก็จะบริจาคให้แก่มูลนิธิ "The Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research" ของ Michael J. Fox ผู้ซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสันตั้งแต่ปี 1991 หรือเมื่ออายุได้แค่ 30 ปีเท่านั้นครับ คงต้องมาร่วมลุ้นกันแล้วล่ะครับว่าจะมีเพื่อน ๆ ชาวไทยคนไหนได้เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ที่ทำออกมาในปี 2016 บ้าง!!!