adidas UltraBOOSTกับลวดลาย Customของ

แบรนด์ไฮเอนด์ "Louis Vuitton" โดย Dent Kicks Custom 

Dent Kicks Custom หนึ่งในทีม Customize สนีกเกอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดเจ้าหนึ่งบนโลกออนไลน์ได้

ทำการปรับปรุงรูปโฉมของหนึ่งในสุดยอดรองเท้าสนีกเกอร์แห่งยุคอย่าง adidas UltraBOOST ด้วยการ

หยิบยกลวดลายเอกลักษณ์ของแบรนด์ไฮเอนด์ยอดนิยมตลอดกาลอย่าง "Louis Vuitton" มาวาด

ลวดลายลงบน TPU Cage อีกหนึ่งอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของรองเท้าสนีกเกอร์จากแบรนด์สามแถบตัวนี้ 

ย้อมสี Upper Sole ผ้า Mesh ความยืดหยุ่นสูงด้วยสีน้ำตาลช็อคโกแลตเข้มโดนใจ ให้ความรู้สึก 

Luxury ของแบรนด์อย่างเต็มเปี่ยมน่าจับตามอง ไฮไลท์ด้วยโลโก้ "LV" สุดโดดเด่นบริเวณลิ้นรองเท้า 

ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dent Kicks Custom

Instragram : dentkickcustom

การกลับมาอีกครั้งของ NIKE MAG 2016, THE REAL POWER-LACING SHOE!!!

          Nike Mag รองเท้าที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของเหล่า Sneakerhead มากว่า 20 ปี นอกจากจะเป็นรองเท้าจากภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง "Back to the future II" รองเท้าคู่นี้ยังมีความพิเศษตรงที่มันสามารถผูกเชือกเองได้ มาพร้อมกับรูปทรงที่ล้ำยุคดูทันสมัยทำให้รองเท้าคู่นี้เข้าไปอยู่ในใจของพวกเราได้อย่างไม่ยากเย็น หากย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วการได้เห็นรองเท้าคู่นึงที่สามารถผูกเชือกด้วยตัวเองได้นั้นคงเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนที่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

           รองเท้าคู่นี้เคยทำออกมาให้เหล่า Sneakerhead ได้เป็นเจ้าของเมื่อปี 2011 โดยการประมูลผ่าน Ebay ณ ขณะนั้นแฟน ๆ ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ ราคาที่ประมูลกันก็พุ่งขึ้นไปถึงหลักแสนบาทครับ!!! โดยที่ในตอนนั้นยังไม่มีระบบกลไกให้รองเท้าสามารถผูกเชือกเองได้ด้วยซ้ำ แต่ก็เพียงพอให้เกิดกระแสที่แตกตื่นกันไปทั่วโลกด้วยยอดประมูลรองเท้า 1,510 คู่ อยู่ที่ 4.7 ล้านเหรียญ  ซึ่ง Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Google และ Anne Wojcicki ภรรยาได้ร่วมบริจาคเงินอีกเท่าตัวนั่นทำให้ยอดรวมของเงินบริจาคพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 9.4 ล้านเหรียญ และได้มอบให้แก่มูลนิธิ "The Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research" สำหรับราคาขายในท้องตลาดปัจจุบันนี้อยู่ที่ +/- 10,000 เหรียญหรือประมาณ 3 แสนกว่าบาทครับ ซึ่งรองเท้าที่ทำออกมาในปี 2011 นั้นเป็นรองเท้าที่มีลักษณะเหมือนกันเฉย ๆ ยังไม่สามารถผูกเชือกเองได้ด้วยซ้ำ!!! เพราะฉะนั้นถ้ามีรองเท้ารุ่นนี้ที่สามารถผูกเชือกเองได้...ไม่ต้องคิดเลยครับว่าราคาจะพุ่งขึ้นไปสูงขนาดไหน

                 ในวันที่ 4 ตุลาคม 2559 นี้ ทาง Nike ได้ประกาศออกมาแล้วครับว่ารองเท้ารุ่นนี้จะวางจำหน่ายอีกครั้งแต่สิ่งที่แตกต่างจากที่เคยวางขายในปี 2011 ก็คือ....มันสามารถผูกเชือกเองได้แล้ว!!! นั่นทำให้รองเท้าคู่นี้เหมือนกับที่เคยเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1989 ทุกประการ โดยกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ผ่านทางแอพลิเคชั่น Nike+ ซึ่งจะไม่ใช้การประมูลเหมือนเมื่อ 5 ปีที่แล้วแต่จะใช้การจับฉลากผู้โชคดีที่เข้าไปบริจาคเงินผ่านแอพลิเคชั่นนี้ และก็เช่นเคยครับรายได้ก็จะบริจาคให้แก่มูลนิธิ "The Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research" ของ Michael J. Fox ผู้ซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสันตั้งแต่ปี 1991 หรือเมื่ออายุได้แค่ 30 ปีเท่านั้นครับ คงต้องมาร่วมลุ้นกันแล้วล่ะครับว่าจะมีเพื่อน ๆ ชาวไทยคนไหนได้เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ที่ทำออกมาในปี 2016 บ้าง!!!

24 กันยาฯนี้ปล่อยแน่นอน YEEZY Boost 350 V2

350 ตระกูลยอดฮิตจาก  adidas Yeezy พร้อมปล่อยของที่เป็นกระแสให้อยู่ในกระแสอย่างต่อเนื่องจากการดีไซน์ของ Kanye West 

adidas Originals YEEZY Boost 350 V2 “Beluga”

หลังจากมีการคอนเฟิร์มจากอาดิดาสแล้วว่าจะมีการปล่อยเจ้า  YEEZY Boost 350 V2 ออกมาจำหน่ายในไทยอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูอีกทีว่าจะจำหน่ายในรูปแบบไหน มีกี่คู่ ราคาเท่าไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไป

ซึ่งเจ้า  YEEZY Boost 350 V2 มาในโทนสี  “Beluga” ส้ม เทา ดำ รายละเอียดของตัวรองเท้าจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนไปมากจากเดิม แต่จะเน้นที่ความประณีต วัสดุ งานเย็บ และ Texture ต่างๆ จะปรับลวดลายใหม่ทั้งตัว Upper และ พื้น Outsole จะว่าไปก็เนี๊ยบอยู่เหมือนกัน ลองไปดูคลิปด้านล่างนี้ คือรอยตะเข็บที่เย็บผ้าจะขึ้นทรงเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด

แน่นอนว่า 24 กันยายนนี้ ออกมาจำหน่ายอย่างแน่นอน สาวกสนีคเกอณ์เฮดทั้งหลายไม่น่าจะพลาดแรร์ไอเท็มตัวนี้นะ

adidas NMD OG R1 สร้างปรากฏการณ์ซอมบี้ไทยแลนด์

 

 

สำหรับรองเท้าแนวแฟชั่นกีฬาหรือที่เรียกกันว่า ‘สนีคเกอร์’ รุ่นนี้ อยู่ในตระกูล Originals (แนวรองเท้าวิ่ง) โดยรูปร่างมาในแบบ Futurism ที่กำลังเป็นเทรนด์ของรองเท้าแฟชันสตรีทในปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครที่ชื่นชอบรองเท้าสายนี้อยู่แล้ว ก็คงรู้จักรุ่นยอดนิยมอย่าง ZX Flux  หรือ Tubular Runner มาบ้าง แต่สำหรับ NMD เป็นอะไรที่แตกต่างและเหนือกว่านั้น


 

 

โดยชื่อเต็มคือ Originals NMD Runner (NMD R1) ซึ่ง ‘NMD’ มาจาก ‘NOMAD’ ที่หมายถึง ‘นักท่องเที่ยว/ผู้เร่ร่อน’

 

ทางด้านฝ่ายออกแบบของอาดิดาสเคยออกมาบอกเล่าถึงสนีคเกอร์รุ่นนี้ว่า หัวใจหลักของ adidas Originals แม้ยังเน้นการนำเรื่องราวของอดีตมาเป็นธีม แต่ก็เติมเต็มความคลาสสิคที่ทุกคนถวิลหาเข้ากับเทรนด์ของผู้คนยุคใหม่ที่ชอบเดินทาง จึงออกมาในรูปแบบรองเท้าที่ให้อารมณ์เหมือนรองเท้าผ้าใบทั่วไปผ่านสีสัน แต่รูปทรงดูทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน

ทั้งหมดทำให้ NMD ดูน่าสนใจมาก ในแง่รูปร่างหน้าตาที่สะสวยแบบร่วมสมัย พร้อมด้วยรายละเอียดที่น้อยแต่เด่น โดยตัวก่อนเป็นการตัดเอาคู่สีจากรองเท้าวิ่ง 3 รุ่นดังในอดีตมาไว้ในที่เดียว ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำเอาสาวกแห่แหนไปแก่งแย่ง ยิ่งเด่นชัด ด้วยความคลาสสิคและร่วมสมัย จากโทนสีเทาสลับดำบนอัปเปอร์ผ้า ซึ่งทำให้สีเหลื่อมกันไปมาอย่างมีมิติ แถมความโดดเด่นยังอยู่ที่แผ่นหุ้มเอ็นร้อยหวาย, แถบผ้าด้านหลังที่มีประโยคว่า ”The Brand With The 3Stripes”

 

 

 

สรุปแล้ว สิ่งที่น่าจะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ในตัว NMD ก็คือ ความสะสวยและเซ็กซี่แบบเรียบง่าย แต่โดนใจ ซึ่งผสมผสานจากจุดเด่น ทั้งด้านดีไซน์ของรองเท้าวิ่งชื่อดังในอดีต รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้แรงบันดาลใจมาสานต่อสู่รองเท้ารุ่นใหม่ ยิ่งเมื่อผนวกกับระบบการขายแบบจำกัดด้วย ซึ่งว่ากันว่า สาขาสยาม มีจำหน่ายแค่ ’50 คู่’ ในราคา 6,990 บาท (โดยอาดิดาส สาขาสยาม ได้เปลี่ยนวิธีการซื้อปกติเป็นจับฉลาก) NMD จึงกลายเป็นของหายากไปโดยปริยาย งานนี้ เลยแล้วแต่บุญแต่กรรมและความไว ถ้าอยากได้ ก็จัดไป (ของหิ้วอาจแพงหน่อย) แต่ถ้ารอไหว ไปรอลุ้นรุ่นหน้าละกัน…

AIR JORDAN 1 "BRED" คือรองเท้าที่ถูก BANNED จริงหรือ!!

                เป็นที่เฝ้าคอยกันสำหรับรองเท้า Air Jordan 1 Retro High OG "Banned" ที่ทาง Nike จะทำการ Retro ออกมาในเดือน กันยายน 2016 นี้ นอกจากความที่เป็น Air Jordan รุ่นแรกหรือด้วยสีดำแดงที่เราคุ้นเคยในชื่อว่า "Bred" แล้ว รองเท้าคู่นี้ยังมีเรื่องราวที่ทุกคนให้ความสนใจ นั่นคือคำว่า "Banned" โดยที่หลาย ๆ คนรับรู้เรื่องราวมาว่า...รองเท้าคู่นี้ผิดกฏ NBA เนื่องจากในสมัยก่อน NBA มีกฏในการสวมใส่รองเท้าในสนาม ไม่ใช่แค่จะต้องเป็นสีที่ตรงกับชุดแข่งของทีมแต่จะต้องตรงกับเพื่อนร่วมทีมในสนามด้วย พร้อมด้วย "กฏ 51%" ที่ 51% ของรองเท้าจะต้องมีสีขาวเป็นส่วนประกอบ เพราะฉะนั้นการที่ Michael Jordan ใส่รองเท้าสีดำในสนามนั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฏอย่างแน่นอน และเป็นที่รู้กันว่า Nike จะต้องจ่ายเงินให้ NBA เป็นค่าปรับ $5,000 ต่อเกมที่ Michael Jordan ใส่รองเท้าสีดำลงแข่งด้วย

                       

             สำหรับ Air Jordan 1 Retro High OG "Banned" ที่จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 3 กันยายนนี้ เป็นตัวที่ทำออกมาใหม่ให้ใกล้เคียงกับตัวดั้งเดิมมากที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวัสดุต่าง ๆ หรือการสกรีนเบอร์ไซส์รองเท้าไว้ที่ด้านใน แผ่นรองรองเท้าเป็นสีขาวสกรีน Nike Air สีแดงรวมไปถึง Tumbled Leather ที่นอกจากจะนุ่มแล้วยังดูดีอีกด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนสงสัยกันคือ...ทำไม Air Jordan 1 Retro ถึงไม่ร้อยเชือกมาให้จากโรงงาน...นั่นก็เพราะว่าในปี 1985 ที่ Air Jordan 1 OG ออกวางขายเป็นครั้งแรก ทาง Nike นั้นไม่ได้ร้อยเชือกรองเท้ามาให้เช่นกัน นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำออกมาให้ใกล้เคียงกับตัว OG มากที่สุด รวมไปถึงมันยังทำให้คนที่ซื้อรองเท้าคู่นี้ไป ได้สัมผัสความรู้สึกเดียวกับเมื่อตอนปี 1985 ด้วยและทาง Nike ก็มีเชือกรองเท้ามาให้เพื่อน ๆ ได้เปลี่ยนถึง 3 สี ทั้งดำ, ขาวและแดง เลือกสีให้เข้ากับการแต่งตัวได้เต็มที่เลยครับ

Nike Air Max Zero ‘QS’

Air Max Zero รองเท้าต้นแบบที่ถูกออกแบบมาก่อนที่จะเป็นรองเท้า Air Max 1 รองเท้าวิ่งในตำนาน ที่ออกแบบโดย Tinker Hatfield ปรมาจารย์ทางด้านการออกแบบของ Nike ซึ่งแบบร่างของ Air Max Zero นั้นถูกเก็บไว้กว่า 30 ปี ก่อนที่จะนำมาผลิตจริง ๆ ในปี 2015 และ 2016 ครับ 

คราวนี้ Air Max Zero กลับมาอีกครั้งใน Pack พิเศษ ที่มาในโทนสี Minimal เรียบหรู พร้อม “Swoosh” แบบสะท้อนแสง (Reflective) และที่สำคัญมาพร้อม Package พิเศษแบบเดียวกับที่เคยวางจำหน่ายมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พวงกุญแจ Air Key chain ,กล่องรองเท้าแบบพิเศษครับ

คอลเลคชั่นใหม่นี้จะมีด้วยกัน 2 สีครับ Black และ White ครับ สำหรับในประเทศไทย จะวางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะที่ Upperground by Carnival เท่านั้นครับ